โย่ว! ใครเคยอ่านปรัชญาของเฟรดริช นิทซ์เช่ (Friedrich Wilhelm Nietzsche) บ้าง
หืมมมม.... ใครเหรอ? อย่าว่าแต่ปรัชญาอะไรเลย แค่ชื่อบางคนก็ยังไม่เคยได้ยิน เขาเป็นใคร สำคัญแค่ไหนถึงต้องไปรู้จัก
คือจริงๆ เขาอาจจะไม่ป็อปปูล่าร์เท่าไอน์สไตน์ เพราะนั่นเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์คนสำคัญของโลก (ที่ชอบแลบลิ้น) แต่นิทซ์เช่เป็นนักคิดนักปรัชญาที่สำคัญคนหนึ่งของโลกเราที่เป็นแรงกระเพื่อมหนึ่งที่ส่งผลต่อการสร้างจิตสำนึกเรื่อง "ความคิดก้าวหน้า" ของสังคมสมัยใหม่ (Post-Modern) กันเลยทีเดียว
เฟรดริช นิทซ์เช่ เป็นชาวเยอรมัน ประกอบอาชีพเป็นศาสตราจารย์ด้านปรัชญาที่มหาวิทยาลัยบาเซิล (University of Basel) ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เขามีชีวิตอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1844-1900
ทีนี้ลองมาดูพื้นฐานความคิดทางปรัชญาของนิทซ์เช่กัน เขามีความเชื่อว่า ในสังคมมนุษย์และโลกแห่งความเป็นจริงมีลักษณะของ “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” อยู่ในทุกที่ทุกหนแห่ง ซึ่งผู้ที่สมบูรณ์และแข็งแรงกว่าเท่านั้นที่จะอยู่รอดและสมควรจะได้รับโอกาสที่ดีกว่าผู้ที่อ่อนแอหรืออ่อนด้อยในสังคม เพราะพื้นฐานของมนุษย์โดยทั่วไปมักแสวงหาอำนาจที่เหนือกว่าผู้อื่นอยู่แล้วโดยธรรมชาติ
พูดง่ายๆ คือ มนุษย์มีเจตจำนงที่จะมีอำนาจ (Will to Power) นั่นเอง
เขาแบ่งมนุษย์ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ “ผู้มีอำนาจ” และ “ผู้ที่ต้องอยู่ใต้อำนาจ” ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้จะมีสิทธิเข้าถึงโอกาสในสังคมได้แตกต่างกัน เพราะผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าย่อมต้องมีสิทธิและมีโอกาสมากกว่าผู้ที่อ่อนแอในสังคมอยู่เสมอ และความจริงนี้ก็เป็นสิ่งที่ฝังรากลึกลงในสังคมมาชั่วนาตาปีแล้ว
งานเขียนงานหนึ่งที่ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1883 และถือว่าเป็นการจุดพลุให้นิทซ์เช่กันเลยก็ว่าได้คือ หนังสือชื่อว่า "พระเจ้าตายแล้ว" (God is Dead) เป็นไง อหังการไหมล่ะ
เขามีเหตุผลว่า สังคมยุคใหม่นี้กำลังถูกขับเคลื่อนไปโดยวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรม เพราะหลักการทางวิทยาศาสตร์สามารถวิเคราะห์ วิจัย และพิสูจน์ผลที่เป็นรูปธรรม และสามารถจับต้องได้มากกว่า และวิทยาศาสตร์ก็กำลังปลูกความเชื่อใหม่ๆ ลงในสังคมมนุษย์แทนความเชื่อในพระเจ้า และมนุษย์ในสมัยนี้ก็กำลังถอยห่างออกจากคำสอนดั้งเดิมไปทุกขณะไม่ว่าเป็นชนชาติศาสนาใดก็ตาม
ยัง..ยังไม่หมด อีกแนวคิดหนึ่งของนิทซ์เช่ที่สั่นสะเทือนวงการนักคิดคือ แนวคิดเรื่อง "ความจริง" (Truth) ที่จริงแท้นั้นไม่มีจริง ไม่มีความจริงในโลกนี้ และเราก็ไม่สามารถบอกได้ว่า สิ่งใดคือความจริงหรือสิ่งใดเป็นความเท็จ เหตุผลเพราะความจริงกับความเท็จนั้นไม่ใช่สิ่งที่ยั่งยืน คงที่ แน่นอนหรือตายตัว เพราะความจริงสามารถพลิกผันเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไปได้เสมอ
สั้นๆ คือ "ไม่มีสิ่งใดที่จริงแท้" นั่นเอง
แต่สิ่งที่นิทซ์เช่ไม่อาจคาดคิดถึง (เพราะเขาเสียชีวิตก่อน) ซึ่งเป็นผลอันเกิดจากแนวคิดเรื่อง “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” และทฤษฏี "เจตจำนงที่จะมีอำนาจ" (Will to Power) ของนิทซ์เช่นี้เองที่มีการวิพากษ์ว่า มีความเป็นไปได้ ที่อาจจะมีอิทธิพลอย่างต่อความคิดของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำพรรคนาซีในประเทศเยอรมนี และอาจเป็นแรงจูงใจที่ทำให้เกิด "ลัทธิฟาสซิสต์" (Fascism) หรือลัทธิคลั่งชาติ โดยการนำของเบนิโต มุสโสลินีในประเทศอิตาลี อันเหี้ยมโหดขึ้น และนำพาโลกให้เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ค.ศ. 1939-1945 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 50 ล้านคน
เชื่อหรือยังว่าเขาคนนี้สำคัญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น